30
Senior S&OP Planner/ Assistant Supply Chain Manager (S&OP)
S&OP Process Management (การบริหารกระบวนการ S&OP)
ประสานงานการประชุม S&OP รายเดือน ร่วมกับทีมขาย, การตลาด, การผลิต และการเงิน
จัดทำและนำเสนอ S&OP Dashboard พร้อม KPI tracking สำหรับผู้บริหารระดับสูง
วิเคราะห์ gap ระหว่าง sales plan และ operational capacity และเสนอแนะทางเลือกในการแก้ไข
สร้าง scenario planning สำหรับการตัดสินใจเชิงธุรกิจในสถานการณ์ต่างๆ
ประเมินผลกระทบทางธุรกิจ จากการเปลี่ยนแปลงในแผนการขายและการผลิต
Demand Planning (การวางแผนความต้องการ)
วิเคราะห์ข้อมูล sales, inventory และ production data เพื่อสร้าง accurate demand forecast และ หา factor ในการ forecast ที่เหมาะสม
วิเคราะห์และคาดการณ์ market trends, seasonality และ campaign impact ร่วมกับทีมการตลาดและ Growth Management
ใช้ statistical models และ data analytics ในการวางแผนการที่เหมาะสม ทั้ง Time Series method, Explanatory Method
เข้าใจและวิเคราะห์ BOM (Bill of Materials) เพื่อวางแผนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์
พัฒนา demand forecast model แบบ rolling 52 สัปดาห์ ให้มีความแม่นยำ สำหรับสินค้าสำเร็จรูป, วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์
ปรับปรุงความแม่นยำของ forecast accuracy ผ่านการใช้ data analytics และ AI tools
1. การวางแผนและดำเนินการบำรุงรักษา:
วางแผนและดำเนินการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance - PM) และเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance - PdM) สำหรับเครื่องจักรและอุปกรณ์ทั้งหมดในโรงงาน
จัดทำตารางการบำรุงรักษา, กำหนดขอบเขตงาน, และประมาณการทรัพยากรที่จำเป็น
ประสานงานกับแผนกผลิตและแผนกอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบต่อการผลิตระหว่างการบำรุงรักษา
2. การแก้ไขปัญหาและซ่อมแซม:
วินิจฉัยและแก้ไขปัญหาเครื่องจักรขัดข้องอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดเวลาหยุดทำงาน (Downtime)
ดำเนินการซ่อมแซมและเปลี่ยนอะไหล่ที่จำเป็น รวมถึงการปรับแต่งเครื่องจักรเพื่อให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ
วิเคราะห์รากเหง้าของปัญหา (Root Cause Analysis - RCA) เพื่อป้องกันปัญหาเดิมๆ ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ
3. การจัดการอะไหล่และเครื่องมือ:
บริหารจัดการสต็อกอะไหล่และเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการบำรุงรักษา ให้มีปริมาณที่เหมาะสมและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
จัดซื้อจัดจ้างอะไหล่และบริการจากภายนอกตามความจำเป็น และตรวจสอบคุณภาพ
4. การปรับปรุงและพัฒนา:
เสนอแนะและดำเนินการปรับปรุงเครื่องจักร, ระบบ, หรือกระบวนการบำรุงรักษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ, ความน่าเชื่อถือ, และลดต้นทุน
เข้าร่วมในโครงการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) เช่น TPM (Total Productive Maintenance) หรือ Lean Manufacturing
ศึกษาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการบำรุงรักษา
5. การจัดทำเอกสารและรายงาน:
บันทึกข้อมูลการบำรุงรักษาทั้งหมด เช่น ประวัติการซ่อม, การเปลี่ยนอะไหล่, และค่าใช้จ่าย
จัดทำรายงานประสิทธิภาพการบำรุงรักษา เช่น MTBF (Mean Time Between Failures), MTTR (Mean Time To Repair), และต้นทุนการบำรุงรักษา
6. ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม:
กำกับดูแลและปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน (เช่น LOTO - Lockout/Tagout)
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการบำรุงรักษาเป็นไปตามข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง
คุณสมบัติ
1. จบด้านวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ วิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล
2. มีประสบการณ์ตรง 0-2 ปีขึ้นไป ในโรงงานผลิตที่ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติ เช่น เครื่องบรรจุผง, เครื่องบรรจุซอง หรือเครื่องแคปซูล
3. สามารถอ่าน, ทำความเข้าใจ, และแก้ไขโปรแกรม PLC (เช่น Siemens, Rockwell Allen-Bradley, Mitsubishi, Omron) ได้
4. ความเข้าใจในระบบ HMI (Human Machine Interface) และ SCADA
5. ความรู้เรื่องเซ็นเซอร์ (Sensors) ชนิดต่างๆ (Proximity, Photoelectric, Pressure, Temperature) และการใช้งาน
6. ความเข้าใจในระบบไฟฟ้า: วงจรไฟฟ้ากำลัง, วงจรควบคุม, มอเตอร์, อินเวอร์เตอร์ (VFD), ระบบสายไฟ, แผงควบคุม, อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า
7. ความเข้าใจในระบบเครื่องกล: กลไกเครื่องจักร, ระบบส่งกำลัง (เกียร์, โซ่, สายพาน), แบริ่ง, ระบบหล่อลื่น, ระบบไฮดรอลิกและนิวแมติก
8. ทักษะการวิเคราะห์ปัญหา (Troubleshooting): สามารถวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาเครื่องจักรขัดข้องได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ
9. ความรู้ด้านการบำรุงรักษา: เข้าใจหลักการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance - PM) และบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance - PdM)
10. การอ่านแบบทางวิศวกรรม: สามารถอ่านและเข้าใจแบบวงจรไฟฟ้า (Electrical Schematics), แบบเครื่องกล (Mechanical Drawings), แผนผัง P&ID (Piping and Instrumentation Diagram)
1. การบริหารและพัฒนาทีม HR
สนับสนุนการบริหารทีม HR ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีส่วนร่วมในการสร้างและพัฒนาทีมงาน HR
สร้างแรงจูงใจและความไว้วางใจในทีม
เป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงออกถึง Core Values ขององค์กร
ช่วยกำหนดและติดตาม OKRs ของทีม HR
2. การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HRM)
วางแผนและดำเนินการสรรหาบุคลากรเชิงรุก
พัฒนา Employer Branding และกลยุทธ์การดึงดูดบุคลากร
ออกแบบและปรับปรุงระบบ Onboarding Program
พัฒนาโครงสร้างเงินเดือนและสวัสดิการที่แข่งขันได้
ออกแบบโปรแกรม Well-being ที่ครอบคลุมทั้งด้านกายภาพและจิตใจ
ดูแลระบบการจัดการประสิทธิภาพการทำงาน
บริหารจัดการความสัมพันธ์กับพนักงานและแก้ไขปัญหาเรื่องคน
กำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน
3. การพัฒนาทรัพยากรบุคคล (HRD)
พัฒนาและดำเนินการโครงการฝึกอบรมที่ตอบโจทย์องค์กร
ออกแบบแผนพัฒนารายบุคคล (IDP) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร
สร้างระบบติดตามและประเมินผลการพัฒนาบุคลากร
สนับสนุนการพัฒนาภาวะผู้นำและแผนพัฒนาสายอาชีพ
ส่งเสริมบรรยากาศการทำงานที่ดี เช่น จัดกิจกรรมสันทนาการ, กิจกรรมCSR
4. การพัฒนาองค์กรและระบบ (HROD & HRIS)
มีส่วนร่วมในการออกแบบโครงสร้างองค์กรให้รองรับการเติบโต
พัฒนาโครงการเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรและ Core Values
วางแผนและดำเนินการสำรวจความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement)
ดูแลระบบ/ปรับปรุงระบบ HRIS และพัฒนาข้อมูลพนักงานให้มีความถูกต้อง เพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงาน
ริเริ่มการนำ AI และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในงาน HR
พัฒนาระบบ HR Digital Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
สร้างระบบการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ
คุณสมบัติ
-วุฒิการศึกษาปริญญาตรี สาขาการบริหารทรัพยากรบุคคล, บริหารธุรกิจ หรือสาขาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
-มีประสบการณ์อย่างน้อย 5 ปี ในด้านทรัพยากรบุคคลในระดับบริหารจัดการในทุกหน้าที่ (HRM, HRD, HROD, HRIS) ในบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม
-มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับนโยบายด้านทรัพยากรบุคคลและกฎหมายแรงงาน
1. ดูแลและควบคุมการดำเนินงานคลังสินค้าประจำวันให้ถูกต้องตามระบบ และมีประสิทธิภาพ
2. วางแผนการจัดเก็บสินค้า รวมถึงควบคุมการจัดเก็บผงมัทฉะและวัตถุดิบอื่น ๆ ให้เหมาะสมกับลักษณะสินค้า และสอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพตามระบบ GHP/HACCP
3. ดำเนินการตรวจนับสต๊อกประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าสต๊อกมีความถูกต้อง 100 % และจัดทำรายงานการตรวจนับสต๊อกร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
4. ประสานงานกับฝ่ายผลิต, ฝ่ายจัดซื้อ และฝ่ายวางแผนการผลิต เพื่อบริหารสต็อกให้มีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
5. จัดทำรายงานสรุปรายการสินค้าคงคลังประจำสัปดาห์/เดือน และสนับสนุนในด้านข้อมูลแก่ผู้บังคับบัญชา
6. บริหารจัดการทีมงานคลังสินค้า ให้มีความพร้อมในการทำงานตามมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ
7. ควบคุมดูแลความสะอาด ความปลอดภัย และระเบียบภายในคลังสินค้า
8. ตรวจสอบและพัฒนาระบบการจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบโจทย์การเติบโตของบริษัท
คุณสมบัติ
1. วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขา การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน, วิศวกรรมโลจิสติกส์ หรือในสาขาที่เกี่ยวข้อง
2. มีประสบการณ์ด้านคลังสินค้านอย่างน้อย 2 ปี (พิจารณาเป็นพิเศษ)
3. มีทักษะการใช้โปรแกรม Microsoft Office, WMS และระบบ ERP (พิจารณาเป็นพิเศษ)
4. มีความรับผิดชอบงานและทำงานเป็นทีมได้ดี
5. มีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
6. มีทักษะการสื่อสารและการประสานงานที่ดี
รายละเอียดงาน
- กําหนดทิศทางการตลาด และวางแผนกลยุทธ์การตลาดทุกช่องทางการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์
- กระตุ้นยอดขาย แต่ละช่องทางให้ถึงเป้าที่กําหนดในแต่ละเดือน
- วางแผนการบริหารงบประมาณที่ใช้ เพื่อกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่องทาง
- ดำเนินการคัดเลือกบริษัทโฆษณา เลือกสื่อ และออกแบบสื่อโฆษณาให้มีประสิทธิภาพตามงบประมาณที่วางไว้
- วางแผนการจัดกิจกรรม การคิดแคมเปญต่างๆ เพื่อเพิ่มลูกค้ารายใหม่ และรักษาลูกค้ารายเก่า
- วางแผน พัฒนาสร้างสรรค์ ผลิตและบริหาร campaign ทางการตลาดทุกช่องทาง ตามนโยบายขององค์กร
- สรุปและวิเคราะห์ข้อมูลยอดขายผ่านการขายทุกช่องทาง และวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าเพื่อพัฒนากลยุทธ์ให้เติบโต
- วางแผนและบริหารงบประมาณเพื่อกระตุ้นยอดขายในแต่ละช่องทาง พร้อมทั้งจัดทำโปรโมชั่นที่ตอบสนองความต้องการของตลาด
- กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับทีมงาน และการวางแผนงานเพื่อให้ทีมงานมีกรอบและแนวทางในการดำเนินงาน
- นำเทรนด์ใหม่ๆ ในการตลาดดิจิทัลและเครื่องมือใหม่มาปรับใช้เพื่อให้ทันต่อการแข่งขัน
- บริหารจัดการทีม และ Coaching ทีมงานเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทำงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
คุณสมบัติผู้สมัคร
1. ไม่จำกัดเพศ
2. อายุ 28 - 40 ปี
3. วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป สาขาการตลาด, Digital Marketing, การขาย หรือสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
4. มีมนุษยสัมพันธ์ดี บุคลิกดี มีความคิดสร้างสรรค์สูง คล่องตัว รู้จักวางแผนงานได้เอง นำเสนองานได้น่าสนใจ
5. มีทักษะการพูดโน้มน้าว เทคนิคการเจรจาที่น่าสนใจ สำหรับลูกค้าและผู้ร่วมงาน
6. รู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆ อัพเดทตัวเอง คิดแผนและนำเสนองานได้เอง ทำงานได้หลากหลาย รับมือการเปลี่ยนแปลงได้ ไอเดียสร้างสรรค์บรรเจิด รับผิดชอบงานของตนเองและทีมงานได้ดี
7. มีทักษะภาวะการเป็นผู้นำ มีทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี
8. หากมีประสบการณ์ในธุรกิจผลิตเสื้อผ้าจะพิจารณาเป็นพิเศษ

